เครื่องตัดผมเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้เราดูแลเส้นผมของเราให้อยู่ในสภาพที่ดี อุปกรณ์เหล่านี้สามารถใช้งานได้ที่บ้านแทนการไปร้านเสริมสวย เมื่อผู้คนส่วนใหญ่คิดจะซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ มักจะสงสัยว่าราคาอยู่ที่เท่าไร ในคู่มือนี้ เราจะช่วยคุณหาเครื่องตัดผมที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณและเข้ากับงบประมาณของคุณ
กำลังมอเตอร์: กำลังของมอเตอร์เป็นปัจจัยสำคัญลำดับต่อไป มอเตอร์ที่ดีมีความสำคัญเพราะช่วยให้เครื่องสามารถตัดผมที่หนาได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่มอเตอร์ที่ทรงพลังเหมาะสำหรับผมส่วนใหญ่ แต่ก็อาจทิ้งผมที่หนามากไว้ ทำให้เกิดการตัดที่ไม่สม่ำเสมอได้ นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลต่อราคาของเครื่องอีกด้วย
ความยาวของสาย: ความยาวของสายก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา ยิ่งสายยาวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสะดวกต่อการเคลื่อนที่ขณะตัดผมมากขึ้นเท่านั้น ส่วนสายที่สั้นเกินไปอาจทำให้คุณต้องอยู่ใกล้ปลั๊กไฟมาก ซึ่งอาจไม่เหมาะสม เครื่องที่มีสายยาวกว่าอาจจะมีราคาสูงกว่านิดหน่อย
ความทนทาน: การที่เครื่องสามารถใช้งานได้นานแค่ไหนก็เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน เครื่องตัดผมที่ทนทานหมายความว่าคุณจะสามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่เร็ว ๆ นี้ แม้ว่าในตอนแรกอาจมีราคาสูงกว่า แต่ก็ช่วยประหยัดเงินในระยะยาว
เมื่อพูดถึงคำถามว่าคุณควรใช้เงินเท่าไรสำหรับเครื่องตัดผม นั่นเป็นคำถามที่ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสามารถในการจ่ายของคุณ หากคุณตัดผมบ่อย เช่น ตัดให้ครอบครัวหรือตัวเอง การลงทุนในเครื่องตัดที่มีคุณภาพสูงจะคุ้มค่า เพราะจะทำให้งานง่ายขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
แต่หากคุณใช้เครื่องนี้เพียงครั้งเดียว คุณอาจเลือกตัวเลือกที่ราคาถูกกว่า การหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างราคาที่คุณจ่ายได้กับฟังก์ชันที่คุณต้องการมากที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ คุณไม่อยากเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่คุณก็ไม่อยากจ่ายเงินสำหรับเครื่องที่ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้เช่นกัน
Kemei KM-1971[6]: เครื่องตัดผมรุ่นนี้มีกำลังการทำงานสูงมาก มาพร้อมมอเตอร์ที่ทรงพลังและใบมีดคุณภาพดี ประกอบกับมีหัวต่อมาให้ 4 ขนาด ซึ่งช่วยให้คุณสามารถตัดผมได้หลากหลายความยาวและสไตล์ เครื่องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว หรือแม้แต่คนที่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกทรงผมแบบไหน